วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556
โบกมือลาปัญหากลิ่นตัว
ถ้าสาวๆ มีกลิ่นตัวคงดูไม่ดีแน่..มาดูหลากวิธีหยุดกลิ่นไม่พึงประสงค์
ปัญหา "กลิ่นตัว" เกิดจากการที่เรามีเหงื่อออกมาก โดยร่างกายเราจะมี 2 ส่วนที่เหงื่อออกมาก นั่นคือ บริเวณฝ่ามือ-ฝ่าเท้า ซึ่งลักษณะเหงื่อเป็นน้ำใสๆ มีกลิ่นเล็กน้อย และบริเวณข้อพับ รักแร้ หรือขาหนีบ ซึ่งเป็นเหงื่อที่มีกลิ่นเหม็นกว่า มีความหนืดกว่า ซึ่งกลิ่นเหม็นนั้นเป็นเพราะความอับชื้นและมีการหมักหมมร่วมกับแบคทีเรียเหงื่อที่ออกมากผิดปกติจนเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์จำแนกได้เป็น 3 ประเภท1. เกิดจากพันธุกรรม2. เกิดจากโรคบางอย่าง เช่น ไทรอยด์ วัณโรค คอหอยพอก โรคหัวใจ โรคทางสมอง หรือแม้กระทั่งอยู่ในวัยใกล้หมดประจำเดือน และ
3. ไม่สามารถหาสาเหตุได้ นอกจากนี้สิ่งแวดล้อมอย่างสภาพอากาศร้อนก็เป็นตัวเร่งให้เหงื่อออกมาก โดยจะไปกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของต่อมเหงื่อ
หลากวิธีหยุดกลิ่นไม่พึงประสงค์
1. เริ่มจากการดูแลรักษาความสะอาดและอาบน้ำ ซึ่งอาจใช้สบู่ฟอกตามบริเวณที่มีการหมักหมมของเหงื่อเพื่อลดแบคทีเรียที่ก่อ ให้เกิดกลิ่นได้
2. การใช้น้ำยาดับกลิ่นแบบดีโอดูแรนท์ (deodorant) ซึ่งช่วยลดกลิ่นแต่ไม่ช่วยลดเหงื่อ ซึ่งการใช้ยาทาประเภทนี้ต้องระวังเพราะในบางคนอาจเกิดอาการแพ้และทำให้เกิด ผื่นดำได้ อย่างไรก็ดีไม่แนะนำการใช้โรลออนที่เราส่วนใหญ่คุ้นเคย เนื่องจากอาจเกิดอาการแพ้แล้วทำให้เกิดอาการดำได้ หากปัญหากลิ่นตัวที่มีสาเหตุจากเหงื่อออกมากก็ควรหาวิธีรักษาเพื่อระงับ เหงื่อดีกว่า
3. การใช้ยาระงับเหงื่อหรือแอนตีเพอร์สไปแรนท์ (antiperspirant) ซึ่งจะทำปฏิกิริยาให้เกิดการอุดตันในท่อเหงื่อและลดการไหลของเหงื่อได้ แต่ไม่ควรใช้ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมเพราะจะทำให้เกิดการอักเสบและทำให้รักแร้ ดำจากผื่นได้ โดยประเภทที่มีขายตามท้องตลาดนั้นมักผสมน้ำหอม ทางที่ดีจึงควรไปพบแพทย์เพื่อสั่งยาที่มีส่วนผสมของอลูมิเนียมคลอไรด์ 20% สำหรับทาระงับเหงื่อได้
4. การทำไอออนโตที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า โดยแช่น้ำแล้วใช้กระแสไฟฟ้าผลักเพื่อให้เหงื่อออกน้อยลง
5. ฉีดโบทอกซ์ซึ่งได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้วว่า สามารถรักษาอาการเหงื่อออกมากได้ โดยวิธีนี้จะไปยับยั้งสารที่หลั่งออกมาควบคุมระบบประสาทที่ทำให้เกิดการ หลั่งของเหงื่อ มีผลข้างเคียงน้อย ลดเหงื่อได้ 83% และหลังรับการรักษาแล้วจะแก้ปัญหาเหงื่อออกมากได้นาน 6-8 เดือน ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวกต่อผู้ที่มีเหงื่อออกมากผิดปกติ
6. ผ่าตัดเอาต่อมเหงื่อหรือเส้นประสาทที่ควบคุมต่อมเหงื่อ ซึ่งได้ผลดีแต่อาจทำให้เกิดแผลได้
7. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่น เช่น กระเทียม ทุเรียน ชะอม สะตอ เป็นต้น
หากไม่มั่นใจว่า กลิ่นตัวของเรานั้นเป็นปัญหาสำหรับผู้อื่นหรือไม่ ลองสอบถามคนรอบข้างที่ไว้ใจได้ หรือหากเป็นผู้ที่เหงื่อออกมาก และกลิ่นตัวแรง จนยาระงับกลิ่นใดๆ ก็ไม่สามารถหยุดปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ลองปรึกษาคุณหมอดูเพื่อหาสาเหตุให้พบและเข้าไปแก้ไขที่สาเหตุโดยตรง
cr : teenee
"ดมกลิ่น" ตามกรุ๊ปเลือด บำบัดจิต บำรุงสุขภาพ
"เลือด" เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักที่มีกลิ่นเฉพาะตัวของแต่ละคน แต่ละกรุ๊ปเลือด โดยร่างกายของเรามีเลือดอยู่ประมาณ 3.8-4.9 ลิตร หรือคิดเป็น 7% ของน้ำหนักตัว พลาสมาเป็นส่วนประกอบที่มีปริมาณถึง 55% ของเลือด มีลักษณะเป็นของเหลวสีเหลืองที่ประกอบด้วยสารอาหารต่าง ๆ ทั้งฮอร์โมน แอนติบอดี และของเสีย ทำหน้าที่ช่วยให้เม็ดเลือดไหลเวียนไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย
การบำบัดด้วยกลิ่นที่เหมาะสมตามกรุ๊ปเลือด ไม่ว่าจะเป็นการนวดอโรมา หรือการบำบัดด้วยกลิ่น การผสมใช้ในเครื่องสำอางล้วนส่งผลต่อระบบไหลเวียนของเลือด ช่วยปรับสมดุล ฟื้นฟูสุขภาพกาย ใจ จิตวิญญาณและช่วยเสริมสร้างแอนติบอดีภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายเป็นอย่างดี
ใครเลือดกรุ๊ปไหนก็เลือกดมกลิ่นบำบัดให้ถูกโฉลก
กลิ่นต้องห้าม
กรุ๊ป "โอ" เป็นนักบุญ สามารถให้เลือดได้กับทุกกรุ๊ป แต่รับได้เฉพาะเลือดกรุ๊ปเดียวกันเท่านั้น
กรุ๊ป โอ เป็นกรุ๊ปที่ย่อยอาหารเนื้อสัตว์ได้ดี เพราะเป็นกรุ๊ปเลือดที่เก่าแก่ที่สุด ต้องหลีกเลี่ยงกลิ่นบำบัด หรือน้ำมันหอมระเหยตระกูลส้ม มะนาว มะกรูด เกรปฟรุตกลิ่นบำบัดสำหรับคนกรุ๊ปโอ ประกอบด้วยกลิ่นของต้นไทม์ ราสป์เบอรี่ ซีดาร์วูด แฟรงคินเซนส์ เปปเปอร์มินต์ กำยานไทย โกฐกระดูก
กรุ๊ป"เอ" เป็นนักมังสวิรัติ การนวดตัวด้วยน้ำมันจากตระกูลธัญพืช โดยเฉพาะน้ำมันงาม้อน ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่ร่างกายสามารถดูดซึมชดเชยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้เป็น อย่างดี
ส่วนกลิ่นที่ควรหลีกเลี่ยง คือกลิ่นกระดังงา มะลิ หรือกลิ่นโทนต่ำ เพราะจะกดระบบประสาทและการไหลเวียนของเลือดกลิ่นบำบัดสำหรับคนกรุ๊ปเอ จะมีกลิ่นของต้นไม้ในสวน ชาเขียว ใบมะเขือเทศ ใบโหระพา และยี่หร่า
กรุ๊ป "บี" เป็นนักคิด อ้วนง่าย เมื่อไม่อยู่ในสภาวะสมดุลมักมีปัญหาเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันบกพร่องและไวรัส เกิดอาการเหนื่อยล้าง่าย จิตใจมัวหมอง ควรหลีกเลี่ยงโทนกลิ่นต่ำเช่นเดียวกับกรุ๊ปเอ แต่กลิ่นเหล่านี้เมื่อมีการผสมปรุงแต่งกลิ่นให้หอมสดชื่นสามารถใช้ได้ดี กลิ่นบำบัดสำหรับคนกรุ๊ปบี จะมีกลิ่นของเนื้อไม้และกลิ่นเผ็ดร้อน เช่น ขิง เปปเปอร์มินต์ โสม ชาเขียว ชาดำ แอปเปิลแดง เชอร์รี่ดำ ทับทิม พริกไทย พิมเสน และไม้สัก
กรุ๊ป "เอบี" เป็นนักกินทุกรูปแบบ คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้มีจุดอ่อนเรื่องสุขภาพอยู่ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ กลิ่นบำบัดสำหรับคนกรุ๊ปเอบี จะมีกลิ่นที่เป็นส่วนประกอบของแร่หลากหลายชนิดมารวมกัน เช่น แอลดีไฮด์ (ยูคาลิปตัส มะนาว ตะไคร้ ใบส้ม เกรปฟรุต และซีดาร์วูด) อะลูมิเนียม หินชนวน ก้อนกรวด น้ำ
cr:teenee
วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556
หญิงจีนวัย27แต่หน้าแก่ราวอายุ70
หญิงจีนวัย27แต่หน้าแก่ราวอายุ70
| |
วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556
22 ก.พ.มาแน่! ทีโอที เตรียมเปิดบริการ 4G โยงเครือข่ายดีแทค
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอบคุณภาพประกอจาก springnewstv.tv
ประธานบอร์ด ทีโอที เตรียมเปิดบริการ 4G ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ กว่า 100 สถานี เน้นในกทม.และจังหวัดใหญ่ พร้อมเจรจาเชื่อมโยงเครือข่ายกับดีแทค
วันที่ 20 มกราคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุดม พัวสกุล ประธานบอร์ด ทีโอที เปิดเผยว่า ทีโอที จะนำร่องเปิดบริการ แอลทีอี (LTE) 4G 2.3 GHz กว่า 100 สถานี โดยเน้นพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดใหญ่ที่มีการใช้งานดาต้าสูง ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556
ทั้งนี้ ทีโอที ต้องการสร้างความแตกต่างให้กับตลาด ด้วยการทดลองเปิดบริการ แอลทีอี เนื่องจากขณะนี้ โอเปอเรเตอร์เอกชนกำลังพัฒนา 3G 2.1 GHz และเตรียมเปิดให้บริการเดือนมีนาคมนี้ แต่ยังไม่มีรายใดสามารถให้บริการ แอลทีอี ได้มากเท่ากับ ทีโอที เพราะที่ผ่านมาเป็นเพียงการทดลอง 1-2 สถานีเท่านั้น
ในการนี้ ทีโอที ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อประสานงานและขออนุญาตจาก กสทช. เพื่อนำคลื่น 2.3 GHz มาพัฒนาสู่บริการแอลทีอี เนื่องจากเป็นคลื่นความถี่ที่ ทีโอที ได้สิทธิ์ถือครองอยู่แล้ว รวมถึงจะเจรจาเรื่องการดำเนินการเชื่อมโยงเครือข่ายกับ ดีแทค เพราะไม่ต้องการเสียค่าปรับให้ กสทช.
cr:kapook
วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556
ดวงประจำวัน
ดวงพยากรณ์วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ.2556
| |||
|
เกลือๆ
สูดไอเกลือแก้คัดจมูก
เวลาเป็นหวัดคัดจมูกมักทำให้หลายคนรู้สึกรำคาญที่ต้องหายใจฟืดฟาดติดๆ ขัดๆ แถมยังทำให้เรียนและเล่นไม่สนุกอีกด้วย เพื่อนๆ เขาไปเที่ยวกันไหนต่อไหนแล้ว เรายังมานั่งหายใจลำบากอยู่คนเดียว เห็นทีต้องหาทางดูแลตัวเองเป็นการด่วนแล้ว
ดังนั้นคงต้องงัดเอาวิธีที่คุณแม่แนะนำมาใช้ดู ดังนี้
ต้มน้ำประมาณ 1 ลิตร ให้เดือดแล้วเทใส่ชามทนความร้อน จากนั้นตักเกลือป่นผสมลงไป 1 ช้อนชา แล้วสูดไออุ่นๆ ที่ลอยกรุ่นขึ้นมา เพียงแค่นี้จะช่วยให้ทางเดินหายใจบริเวณจมูกนั้นโปร่งโล่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ระวังอย่าเผลออังใบหน้าขณะที่ไอร้อนพวยพุ่งขึ้นมาทันทีนะคะ
อืม!!! จะมีสารเคมีชนิดไหนที่ทั้งถูกและแสนดีแบบเกลือได้อีกคะ
ดังนั้นคงต้องงัดเอาวิธีที่คุณแม่แนะนำมาใช้ดู ดังนี้
ต้มน้ำประมาณ 1 ลิตร ให้เดือดแล้วเทใส่ชามทนความร้อน จากนั้นตักเกลือป่นผสมลงไป 1 ช้อนชา แล้วสูดไออุ่นๆ ที่ลอยกรุ่นขึ้นมา เพียงแค่นี้จะช่วยให้ทางเดินหายใจบริเวณจมูกนั้นโปร่งโล่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ระวังอย่าเผลออังใบหน้าขณะที่ไอร้อนพวยพุ่งขึ้นมาทันทีนะคะ
อืม!!! จะมีสารเคมีชนิดไหนที่ทั้งถูกและแสนดีแบบเกลือได้อีกคะ
cr: teenee.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)